เพื่อรับประกันประสิทธิภาพในการเรียนที่ดีที่สุด การเรียนภาษาจึงเรียนแบบกลุ่มเล็ก ๆ

การเรียนการสอนจะสามารถประสบความสำเร็จได้ เพราะครูของเราสามารถให้ความสำคัญกับนักเรียน และให้ความสนใจกับนักเรียนแต่ละคนได้ดีทั่วถึง

นักเรียนมีกำลังใจ มีแรงผลักดันร่วมกันภายในกลุ่มเล็กๆ และฝึกฝนบทสนทนาได้ง่ายขึ้นอีกด้วย ด้วยเหตุนี้จึงเกิดมิตรภาพเชิงบวกขึ้นในกลุ่มห้องเรียน

หลักสูตรการเรียนแบบกลุ่ม เรียน 4 ครั้งต่อสัปดาห์ / เรียน 1 หรือ 2 ชั่วโมงต่อวัน

โครงสร้าง ไวยากรณ์ ภาษาไทย นั้นเรียบง่าย ตรงกันข้ามกับภาษาเยอรมัน ซึ่งในภาษาไทยไม่มีการผันคำกริยา ไม่มีคำนำหน้าเพศ (der-เพศชาย, die-เพศหญิง, das-ไม่มีเพศ) และคำเป็นแบบรูปแบบเดียวที่เหมือนกันทุกครั้งในการพูดถึงประโยคในรูปปัจจุบัน อดีต และอนาคต

วรรณยุกต์ เสียงวรรณยุกต์, เพราะหนึ่งคำมีการผันไล่เสียง มีความหมายได้ถึง 5 อย่าง ขึ้นอยู่กับคำของแต่ละโทนเสียงที่สื่อสารออกมาร่วมกับคำนั้นๆ ด้วยเหตุผลนี้เราจึงแนะนำ ให้เรียนภาษากับครูที่มีประสบการณ์สอนโดยตรง การเรียนภาษาไทยด้วยตัวเองแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเข้าใจทุกอย่าง คนที่มีทักษะความเข้าใจทางภาษาที่เก่งมากเท่านั้นที่จะเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง

คนที่เข้าใจทางด้านดนตรี จะเรียนภาษาไทยได้ง่ายกว่า เพราะคนเหล่านี้สามารถฟัง และแยกเสียงต่างๆ ได้ดี คนที่ไม่มีพรสวรรค์ทางด้านนี้สามารถเสริมทักษะข้อด้อยนี้ด้วยความขยันหมั่นเพียรที่ต้องมากเพิ่มขึ้นอีก

ข้อดีการเรียนแบบนี้ คือนักเรียนไม่ได้ผูกติดกับเวลาเรียนที่ได้ถูกกำหนดวันและเวลาที่เหมือนเดิม แต่นักเรียนสามารถกำหนดเวลาเรียนขึ้นมาได้ตาม วัน และเวลาของผู้เรียนที่สะดวกสามารถมาเรียนได้

ดังนั้นนักเรียนจึงสามารถจัดตารางเรียนกำหนดวันและเวลา ที่สามารถต้องการเรียนได้โดยตรงกับเรา

นอกจากนี้ยังสามารถปรับเปลี่ยนตารางเรียนตามหลักสูตรได้ในช่วงระหว่างการเรียนการสอน
หากในช่วงแรกคุณรู้สึกมุ่งมั่น ตั้งใจมากกับการเรียนและได้จองตารางเรียนเรียนทุกวัน – และเพิ่งรู้ว่าการเรียนนั้นยากขึ้นเรื่อย ๆ สามารถปรับเปรียนตารางการเรียนได้เหมาะสมกับการเรียนเพื่อให้มีความเข้าใจมากขึ้น

การยกเลิกการเรียน (เช่นการเจ็บป่วย ธุระส่วนตัว ฯลฯ) คุณจะไม่ถูกหักชั่วโมง หากมีการแจ้งทางโรงเรียนให้ทราบล่วงหน้าอย่างน้อยหนึ่งวันทำการ